getilab.com

โซฟา คิ ต ตี้ พับ ได้

การ ทักทาย และ การ ตอบ รับ ภาษา อังกฤษ

  1. การทักทาย ภาษาอังกฤษ และการตอบกลับ พร้อมคำอ่าน คำแปล
  2. ภาษาอังกฤษ: บทที่ 1 การทักทายและการตอบรับคำทักทาย (Greeting)

กล่าวทักทายตามช่วงเวลาที่ได้อธิบายมาแล้ว ในเรื่องที่ 1 คือ Good morning / Good afternoon / Good evening 2. กล่าวทักทายโดยใช้คำว่า Hello หรือ How do you do? Good morning, : Good morning, Good afternoon, : Good afternoon, Mr. Smith. Hello, : Hello, Bobby: How do you do? Aliz: How do you do? How do you do? มักใช้กับคนที่รู้จักกันครั้งแรกหรือไม่คุ้นเคยกัน ประโยคนี้มีความหมายเหมือนคำว่า สวัสดีแต่ไม่ต้องการคำตอบ ผู้กล่าวตอบจึงใช้ประโยค How do you do? ตอบกลับได้เช่นเดียวกัน เรื่องที่ 3 การทักทายบุคคลที่รู้จักกันมาก่อน การทักทายกับบุคคลที่เรารู้จักคุ้นเคย ปกติเราจะใช้คำพูดไม่เหมือนกัน โดยทั่วไปการทักทายมี 2 แบบ ดังนี้ การทักทายแบบเป็นทางการ (Formal Greeting) การทักทายแบบไม่เป็นทางการ (Informal Greeting) การทักทายแบบเป็นทางการ (Formal Greeting) ใช้กับบุคคลที่อาวุโสกว่าหรือในวงการธุรกิจ ราชการ เช่น Good morning, How are you today? Fine, thank you. And how are you? Fine, thank you. Susan: Good evening, Laura. How are you? Laura: Good evening, Susan. Not so well. I have a fever. Susan: Take care of yourself.

การทักทาย ภาษาอังกฤษ และการตอบกลับ พร้อมคำอ่าน คำแปล

You ought to see the doctor. Laura: Yes, I will. หรือหลังคำทักทาย อาจเป็นคำถามเกี่ยวกับเรื่องดิน ฟ้า อากาศ ในขณะนั้น เช่น It's a lovely day, isn't it? ( วันนี้อากาศดีนะ) It's isn't very nice today, is it? ( วันนี้อากาศไม่ดีเลยนะ) It's nice and warm, isn't it? ( วันนี้อากาศดีและอบอุ่นนะ) It isn't a lovely day, is it? ( วันนี้อากาศไม่ดีเลยนะ) การตอบรับ (Responding) Yes, it is. ( ค่ะ วันนี้อากาศดี) Yes, it's lovely. ( ค่ะ วันนี้อากาศดี) Yes, it's beautiful. ( ค่ะ วันนี้อากาศดี) No, it isn't. ( วันนี้อากาศไม่ดีเลย) No, it's terrible. ( วันนี้อากาศไม่ดีเลย) Good morning. : Good morning. It a lovely day today, isn't it? Yes, it is. ข้อสังเกต 1. การถามประโยคที่ผู้ถามคาดว่าคำตอบของผู้ตอบจะเห็นด้วยมักจะใช้คำถามที่เป็นปฏิเสธ เช่น ถาม It's lovely day, isn't it? ตอบ Yes, it is. และถ้าผู้ถามคาดว่าคำตอบจะไม่เห็นด้วยประโยคคำถามจะเป็น It isn't nice and sunny today, is it? ตอบ No, it isn't. 2. ประโยค Present Simple. S + V1 ประธาน + กริยาช่องที่ 1 ใช้กับเหตุการณ์ที่เป็นปัจจุบันหรือเหตุการณ์ที่เป็นจริง เช่น It's a lovely day today, isn't it?

เรื่องที่ 1 การทักทายในช่วงเวลาต่าง ๆ เรื่องที่ 2 การทักทายบุคคลเมื่อพบกันครั้งแรก เรื่องที่ 3 การทักทายบุคคลที่รู้จักกันมาก่อน เรื่องที่ 1 การทักทายในช่วงเวลาต่าง ๆ การทักทายเป็นมารยาทอย่างหนึ่งในสังคม โดยปกติเราจะใช้คำพูดไม่เหมือนกัน หรือแม้แต่ทักทายคนคนเดียวกัน แต่ต่างเวลากันก็ต้องเลือกใช้คำพูดให้ถูกกับเวลาด้วย ในการทักทายมีช่วงเวลา ดังนี้ Good morning สวัสดีตอนเช้า ( หลังเที่ยงคืน ถึงเที่ยงวัน) Good afternoon สวัสดีตอนบ่าย ( หลังเที่ยงวัน ถึงเวลา 18. 00 น. ) Good evening สวัสดีตอนเย็น/ค่ำ ( หลัง 18. ถึงเที่ยงคืน) Good night ราตรีสวัสดิ์ ( เป็นคำใช้กล่าวลาในตอนกลางคืน ไม่ใช่คำทักทายหรือ ตอบรับคำทักทาย) การตอบรับคำทักทาย Good morning Ü Good morning Good afternoon Ü Good afternoon Good evening Ü Good evening Good night Ü Good night ตัวอย่างประโยค Mrs. Laura: Good morning, Mr. Smith. Good morning, Good afternoon, Mr. Sam. Good afternoon, Mrs. Anna. Mr. Jack: Good evening, Mrs. Linda. Mrs. Linda: Good evening, Mr. Jack. เรื่องที่ 2 การทักทายบุคคลเมื่อพบกันครั้งแรก ในการทักทายเมื่อพบกันครั้งแรกกับบุคคลที่เราไม่รู้จักคุ้นเคย หรือเพิ่งพบกัน จะใช้ประโยค คือ 1.

ภาษาอังกฤษ: บทที่ 1 การทักทายและการตอบรับคำทักทาย (Greeting)

( วันนี้อากาศดีนะ) It's isn't very nice today, is it? ( วันนี้อากาศไม่ดีเลย) Today is Monday. ( วันนี้เป็นวันจันทร์) การทักทายแบบไม่เป็นทางการ (Informal Greeting) จะใช้กับเพื่อนสนิท หรือคนที่เราคุ้นเคย ซึ่งจะใช้ Hi หรือ Hello นำก่อนชื่อเพื่อนหรือไม่ต้องมีชื่อเพื่อนก็ได้ แล้วตามด้วยประโยคต่อไปนี้ Hi, Sam. / Hello, Joe. ( สวัสดี) Hi, Sam. How are things? ( เป็นอย่างไรบ้าง) Hello, Joe. How're you doing? ( เป็นอย่างไรบ้าง) Hello, Liz. How's life? ( เป็นไงบ้าง) Hi, How's everything? ( เป็นอย่างไรบ้าง) Hi, What's new? ( มีอะไรใหม่ ๆ ไหม) What's up? ( ทำอะไรอยู่) การตอบรับคำทักทาย (Responding) คำตอบทั่ว ๆ ไปก็จะเป็น So so. ( ก็เรื่อย ๆ, ก็งั้น ๆ) All right, thank you. ( สบายดี ขอบคุณ) Very well, thank you. ( สบายดีจริง ๆ ขอบคุณ) Not bad. ( ไม่เดือดร้อน, ก็ไม่เลว) Not much. ( ไม่มีอะไรพิเศษ) Nothing special. ( ไม่มีอะไรพิเศษ) Sam: Hello, Liz. How's life? Liz: All right, thank you. What's new? Sam: Nothing special. Jai: Hi! How are things? Porn: Very well indeed, How about you? Jai: Not so bad.

บทที่ 1 การทักทายและการตอบรับคำทักทาย (Greeting) เรื่องที่ 1 การทักทายช่วงเวลาต่าง ๆ การทักทายและตอบรับการทักทายเพื่อสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ในการทักทายมีช่วงเวลา ดังนี้ Good morning สวัสดีตอนเช้า (หลังเที่ยงคืน ถึงเที่ยงวัน) Good afternoon สวัสดีตอนบ่าย (หลังเที่ยงวัน ถึงเวลา 18. 00 น. ) Good evening สวัสดีตอนเย็น/ค่ำ (หลัง 18. ถึงเที่ยงคืน) Good night ราตรีสวัสดิ์ (เป็นคำใช้กล่าวลาในตอนกลางคืน ไม่ใช่คำทักทายหรือ ตอบรับคำทักทาย) การตอบรับคำทักทาย Good morning ผู้กล่าวตอบใช้ Good morning Good afternoon ผู้กล่าวตอบใช้ Good afternoon Good evening ผู้กล่าวตอบใช้ Good evening Good night ผู้กล่าวตอบใช้ Good night ตัวอย่างประโยค Good morning, Mr. Smith. Good morning, เรื่องที่ 2 การทักทายบุคคลเมื่อพบกันครั้งแรก ในการทักทายเมื่อพบกันครั้งแรกกับบุคคลที่เราไม่รู้จักคุ้นเคย หรือเพิ่งพบกัน จะใช้ประโยคดังนี้ How do you do? Nice to meet you. I'm glad to meet you. Nice to know you. How do you do? มักใช้กับคนที่รู้จักกันครั้งแรกหรือไม่คุ้นเคยกัน ประโยคนี้มีความหมายเหมือนคำว่า สวัสดีแต่ไม่ต้องการคำตอบ ผู้กล่าวตอบจึงใช้ประโยค How do you do?

  1. ดู หนัง ยิ ป มัน ฟรี
  2. ศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษกฯ มหิดล ร่วมทำ Home Isolation ดูแลผู้ป่วยโควิด
  3. เกม ไม คาบ 1. 7.1.0
  4. โต๊ะ กิน ข้าว ห ลุย ส์
  5. ภาษาอังกฤษ: บทที่ 1 การทักทายและการตอบรับคำทักทาย (Greeting)
Monday, 02-May-22 01:08:07 UTC